มาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับโรงเรียนเอกชนในระบบ

มาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับโรงเรียนเอกชนในระบบ ปีการศึกษา 2566
การดำเนินงานคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน
3 กลุ่มภัย
1. ภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์
• การล่วงละเมิดทางเพศ
• การคุกคามทางเพศ
• การทะเลาะวิวาท
• การกลั่นแกล้งรังแก
• การทำร้าย/ล่อลวง
• การลักพาตัว
• การลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ
• ภัยอื่น ๆ
2. ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ
• ภายนอกสถานศึกษา
• ภายในสถานศึกษา
• ภัยอื่น ๆ
3. ภัยที่เกิดจากผลกระทบต่อสุขภาวะทางกายและจิตใจ
• ภาวะจิตเวช
• ติดเกม
• ภัยจากไซเบอร์
• การพนัน
• การติดสารเสพติด
• โรคระบาด
• โรคติดต่อในสถานศึกษา
• มลภาวะเป็นพิษ
• อาหารเป็นพิษ
• ภัยอื่น ๆ
ภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์
1.1 การล่วงละเมิดทางเพศ/การคุกคามทางเพศ
หมายถึง การกระทำใดๆหรือพฤติกรรมที่สอบภายในทางที่เป็นการบังคับ การใช้อำนาจ ข้อความ ท่าทาง การแสดงด้วยเสียงรูปภาพ เอกสาร ข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือสิ่งของลามกอนาจารเกี่ยวกับเพศหรือกระทำอย่างอื่นอย่างใดในทำนองเดียวกันโดยมีเจต นาที่จะทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน รำคาญ ได้รับความอับอาย หรือรู้สึกว่าถูกเหยียดหยาม ผู้ที่ถูกกระทำได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ
มาตรการป้องกัน
1. สร้างความรู้ความเข้าใจความตระหนักให้กับครู นักเรียน และผู้ปกครองหาทางออกเมื่อต้องเผชิญเหตุและสร้างกลไกการป้องกัน
2. มีระบบดูแลนักเรียน และบุคลากรดูแลอย่างใกล้ชิด
3. โรงเรียนดูแลป้องกันและคุ้มครองนักเรียนไม่ให้ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากบุคคล
4. ทั้งภายใน/ภายนอกสถานศึกษา
5. จัดให้มีกล้องวงจรปิด จากเวรยามตรวจตราพื้นที่เสี่ยง
6. มีบทลงโทษที่รุนแรงและมาตรการที่เข้มแข็งต่อครู บุคลากร และเจ้าหน้าที่โรงเรียนที่กระทำการล่วงละเมิดทางเพศ/คุกคามนักเรียน
มาตรการช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ
1. แยกนักเรียนออกจากเหตุการณ์
2. ประเมินสถานการณ์เพื่อให้การช่วยเหลือทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
3. แจ้งผู้ปกครองผู้ดูแลนักเรียนทราบ
4. ติดตามให้ความช่วยเหลือ
5. ให้ครูหรือผู้อยู่ในเหตุการณ์ รายงานผู้อำนวยการโรงเรียนบันทึกในสมุดหมายเหตุรายวันและรายงานต้นสังกัด
มาตรการหลังเกิดเหตุ
1. โรงเรียนตรวจสอบข้อเท็จจริง
2. เชิญผู้ปกครองมาปรึกษาหารือแนวทางในการแก้ปัญหาร่วมกัน
3. ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู
4. กรณีการกล่าวหาครู/บุคลากรทางการศึกษาเป็นผู้กระทำการล่วงละเมิด
คุกคามทางเพศนักเรียนห้ผู้บริหารโรงเรียนปรับเปลี่ยนหน้าที่ย้ายพนักงานหรือลงโทษตาม อำนาจ หน้าที่ ตามกรณีความรุนแรงและหนักเบาของเหตุการณ์
5. รายงานผลการแก้ไขช่วยเหลือเยียวยา ผ่านระบบ MOE Safety Center หรือรายงานสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
6. ทบทวน ปรับปรุงพัฒนามาตรการการล่วงละเมิดทางเพศ/การคุกคาม ทางเพศเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
หน่วยงานที่ติดต่อขอความช่วยเหลือ
1. ศูนย์ MOE Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สช.
3. สถานพยาบาล
4. บ้านพักเด็กและครอบครัว
5. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
6. ศูนย์ช่วยเหลือสังคม (OSCC) โทร 1300
7. สถานีตำรวจ
8. สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
9. นักจิตวิทยา
10. ศาลเยาวชนและครอบครัว
1.2 การทะเลาะวิวาท
หมายถึง การมีความขัดแย้งหรือการโต้แย้งกันระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคนในเรื่องเดียวกัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นในหลายประเด็น เช่น ความแตกต่างในทัศนคติทางการเมืองความเห็นต่าง ในเรื่องศาสนาหรือค่านิยมทางสังคม หรือแม้กระทั่งความขัดแย้งในครอบครัว การทะเลาะวิวาท อาจเกิดขึ้นเพื่อแสดงความเห็นส่วนตัวหรือแสดงความไม่เห็นด้วยกับอีกฝ่าย หรืออาจเป็น การโต้แย้งเพื่อเสริมสร้างข้อเสียงส่วนใหญ่หรือเพื่อแสดงความเชื่อมั่นในความถูกต้องของความคิดเห็นของตนเอง
มาตรการป้องกัน
1. สร้างความรู้ ในการปลูกฝัง อบรมเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น สร้างทัศนคติของการอยู่ร่วมกัน จัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักเรียนใช้เวลาว่าง ให้เป็นประโยชน์
2. สังเกตพฤติกรรมความประพฤติของนักเรียนกลุ่มเสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาทเป็น รายบุคคล จัดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียน
3. ครูประจำชั้น/ครูผู้สอน เอาใจใส่สร้างแรงจูงใจให้ทำดี จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ที่หลากหลายปรับเปลี่ยนทัศนคติค่านิยม ฝึกคิดเป็นแยกแยะรับผิดชอบชั่วดี
4. จัดให้มีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน คัดกรองความประพฤติติดตามและประสาน งานขอความร่วมมือกับผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด
5. จากระบบเครือข่ายระหว่างผู้ปกครองชุมชนสถานศึกษาเพื่อสื่อสารและสาร สัมพันธ์ร่วมกันป้องกันปัญหา
มาตรการช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ
1. ผู้บริหาร หรือเห็นเหตุการณ์เข้าระงับเหตุ
2. กรณีไม่พบผู้บาดเจ็บ ให้แจ้งผู้ปกครองทราบ
3. กรณีพบผู้บาดเจ็บ ให้ประเมินอาการเบื้องต้นและปฐมพยาบาล
- อาการไม่รุนแรง ส่งห้องพยาบาล
- อาการรุนแรง ประสานสถานพยาบาลใกล้เคียงเพื่อนำนักเรียน ไปรักษาพร้อมแจ้งผู้ปกครองทราบ
4. ครู/ผู้เห็นเหตุการณ์รายงานผู้อำนวยการโรงเรียนลงบันทึกเหตุการณ์ใน สมุดหมายเหตุรายงาน
5. รายงานต้นสังกัด
มาตรการหลังเกิดเหตุ
1. ติดตาม แก้ปัญหา ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู
2. รายงานผลการแก้ไขช่วยเหลือเยียวยาผ่านระบบ Moe Safety Center หรือรายงานสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
3. จัดทำเป็นกรณีศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางในการป้องกัน คุ้มครองนักเรียน
4. ทบทวน ปรับปรุง พัฒนา มาตรการการทะเลาะวิวาทเพื่อป้องกัน การเกิดเหตุซ้ำ
หน่วยงานที่ติดต่อขอความช่วยเหลือ
1. ศูนย์ MOE Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สช.
3. .สถานพยาบาล
4. ศูนย์ฉุกเฉิน โทร 1669
5. สถานีตำรวจในพื้นที่
6. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่
1.3 การกลั่นแกล้งรังแก
หมายถึง พฤติกรรมที่เป็นความตั้งใจกระทำให้ผู้อื่นได้รับความทุกข์ความเจ็บปวด ทั้งทางร่างกายและจิตใจเพื่อให้ตนเองรู้สึกมีอำนาจหรือมีพลังกว่าผู้อื่นอีกทั้งการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นซ้ำๆอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน
มาตรการป้องกันเหตุ
1. สร้างความรู้ เกี่ยวกับโทษของการกระทำผิดทางพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์
2. สร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องการกลั่นแกล้งรังแก และทักษะชีวิต
3. ในระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในการเฝ้าระวัง คัดกรอง ให้คำปรึกษา และช่วยเหลือแก้ปัญหา
4. เฝ้าระวังช่องทางการสื่อสารที่ทำให้เกิดการกลั่นแกล้งรังแก
มาตรการช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ
1. ผู้บริหาร ครู ที่ได้รับแจ้งเหตุหรือเห็นเหตุการณ์เข้าระงับเหตุ/ดำเนินการช่วยเหลือทันที
2. ผู้บริหาร ครู ประเมินพฤติกรรมผู้กระทำและผู้ถูกกระทำเพื่อหาข้อเท็จจริง
3. เชิญผู้ปกครอง ผู้เกี่ยวข้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมหาทางแก้ไขปัญหา
4. ครู ผู้เห็นเหตุการณ์รายงานผู้อำนวยการโรงเรียน ลงบันทึกเหตุการณ์ในสมุดหมายเหตุรายงาน
5. รายงานต้นสังกัด
มาตรการหลังเกิดเหตุ
1. ติดตามแก้ปัญหาช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู
2. รายงานผลการแก้ไขช่วยเหลือเยียวยา ผ่านระบบ Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการหรือรายงานสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
3. จัดทำเป็นกรณีศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางในการป้องกันคุ้มครองผู้ช่วยเหลือนักเรียน
4. ทบทวน พัฒนา มาตรการป้องกันการกลั่นแกล้งรังแกเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
หน่วยงานที่ติดต่อขอความช่วยเหลือ
1. ศูนย์ mot Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สช.
3. นักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น
4. สถานีตำรวจในพื้นที่
1.4 การทำร้าย/ล่อลวง ลักพาตัว
การทำร้าย หมายถึง การที่บุคคลอื่นกระทำหรือละเว้นการกระทำที่ก่อให้เกิดอันตราย แก่ร่างกายของเด็ก เช่น ถ้าทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือทำให้เสียชีวิต รวมถึงการทำให้เกิดความ บอบช้ำทางจิตใจ
การล่อลวง ลักพาตัว หมายถึง การที่เด็กหรือเยาวชน ถูกนำตัวมาจากผู้ปกครองโดย ไม่มีเหตุอันควรและบุคคลที่พาตัวคนหายไปนั้น หากไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดรวมถึง เป็นการพาไปเพื่อแสวงหาประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง และการชักจูงให้เด็กกระทำความผิด
มาตรการป้องกัน
1. จัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะการคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า การตัดสินใจ การให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง รวมถึงทักษะการป้องกันตัว และการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ ให้พ้นจากการถูกทำร้าย ล่อลวง และลักพาตัว
2. จัดระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิด จัดเวรยาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา มีระบบตรวจสอบข้อมูลเข้า-ออก สถานศึกษา
3. ใช้ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ครูที่ปรึกษา เอาใจใส่นักเรียนอย่างใกล้ชิด และทำงานเป็นทีม
4. ประสานงานกับชุมชนเครือข่ายผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยสอดส่อง นักเรียนอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการถูกทำร้าย ล่อลวง และลักพาตัว
5. มีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารเกี่ยวกับการล่อลวงและราคาตัวและวิธีป้องกันให้นักเรียน ทราบทุกระยะ
มาตรการช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ
1. เมื่อเกิดเหตุหรือได้รับแจ้งว่ามีเหตุการณ์ทำร้าย ล่อลวง ลักพาตัวให้ผู้บริหาร ครู หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายตรวจสอบข้อเท็จจริงและปรึกษาเกี่ยวกับผู้เกี่ยวข้อง ในสถานศึกษา
2. กรณีอยู่ในสถานการณ์หรือพบเจอให้เข้าระงับเหตุและดำเนินการช่วยเหลือ
- สามารถช่วยเหลือได้ ให้ดึงนักเรียนออกมาจากบริเวณนั้นโดยคำนึง ถึงความปลอดภัยของตัวเองและนักเรียนเป็นสำคัญ
- ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ให้รีบโทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ โดยต้องแจ้งข้อมูลดังนี้
นักเรียนที่ถูกทำร้ายเป็นใคร
บ้านอยู่ที่ไหน
ใครเป็นคนทำร้าย
ทำอะไร
ทำที่ไหน
ทำอย่างไร โดยแจ้งชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อของผู้แจ้ง
3. ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ปกครอง
4. ขอความร่วมมือจากครู ผู้ปกครอง ชุมชน ผู้เกี่ยวข้องแจ้งเบาะแส
5. ประสานแจ้งผู้ปกครองนักเรียนรับทราบเมื่อเกิดเหตุ และรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ
6. ครูผู้เห็นเหตุการณ์รายงานผู้อำนวยการโรงเรียน ลงบันทึกเหตุการณ์ในสมุดหมายเหตุรายงาน
7. รายงานต้นสังกัด
มาตรการหลังเกิดเหตุ
1. ติดตามแก้ปัญหาช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟู
2. รายงานผลการแก้ไขช่วยเหลือเยียวยาผ่านระบบ Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการหรือรายงานสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
3. จัดทำเป็นกรณีศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางในการป้องกัน คุ้มครองช่วยเหลือนักเรียน
4. ทบทวนปรับปรุงพัฒนามาตรการเพื่อป้องกันการเกิดเหตุช้ำ
หน่วยงานที่ติดต่อขอความช่วยเหลือ
1. ศูนย์ Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สช.
3. ศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทร 1300
4. สถานีตำรวจในพื้นที่
5. สถานพยาบาล
6. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่
7. สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์
8. มูลนิธิพิทักษ์สิทธิเด็ก โทร 02-412 -1196
1.5 การลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ
การลงโทษ หมายถึง การลงโทษนักเรียนที่กระทำผิดโดยมีความมุ่งหมายเพื่อ อบรมสั่งสอน(ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนพ.ศ 2548)
การลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ หมายถึง การลงโทษนักเรียนด้วยวิธีการดูแลที่นอก เหนือจากวิธีการ
1. ว่ากล่าวตักเตือน
2. ทำทัณฑ์บน
3. ตัดคะแนนความประพฤติ
4. ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
มาตรการป้องกันเหตุ
1. กรณีมีการลงโทษนักเรียนควรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ โดยการลงโทษต้องปฏิบัติ ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษาพ.ศ 2548
2. ผู้บริหารโรงเรียนต้องเน้นย้ำ ครูบุคลากร เจ้าหน้าที่ ไม่ให้ลงโทษนักเรียนโดย ไม่ผ่านผู้บริหารโรงเรียน
3. กรณีที่มีการฝ่าฝืนลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ ให้ผู้บริหารพิจารณาลงโทษผู้ฝ่าฝืน ตามอำนาจหน้าที่
มาตรการช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ
1. เมื่อเกิดเหตุหรือได้รับแจ้งว่ามีเหตุการณ์ลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ ให้ผู้บริหาร ครูหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเข้าระงับเหตุ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าดำเนินการ ช่วยเหลือทันที
2. กรณี
- ไม่พบผู้บาดเจ็บ ให้แจ้งผู้ปกครองทราบ
- พบผู้บาดเจ็บ ให้ประเมินอาการเบื้องต้นและปฐมพยาบาล
- อาการไม่รุนแรง ส่งห้องพยาบาล
- อาการรุนแรง ประสานสถานพยาบาลใกล้เคียงเพื่อนำนักเรียนไปรักษา พร้อมแจ้งผู้ปกครองทราบ
3. ครูผู้เห็นเหตุการณ์รายงานผู้อำนวยการโรงเรียนหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายตาม มาตรการ ลงบันทึกเหตุการณ์ในสมุดหมายเหตุรายงาน
มาตรการหลังเกิดเหตุ
1. ติดตามแก้ปัญหาช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟู
2. รายงานผลการแก้ไขช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผ่านระบบ Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการหรือรายงานสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
3. จัดทำเป็นกรณีศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางในการป้องกันคุ้มครองช่วยเหลือ นักเรียน
4. ทบทวน ปรับปรุงพัฒนามาตรการเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
หน่วยงานที่ติดต่อขอความช่วยเหลือ
1. ศูนย์ Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สช.
3. สถานพยาบาล
4. ศูนย์ฉุกเฉิน โทร 1669
5. สถานีตำรวจในพื้นที่
6. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
2. ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ
2.1 อุบัติเหตุภายนอกสถานศึกษา
- อุบัติเหตุกับรถนักเรียน
- รถทัศนศึกษา
- รถพัฒนาจร
- รถรับส่งนักเรียน
- รถโรงเรียน
- รถส่วนบุคคลของครูที่พานักเรียนไปทำกิจกรรม
- การจัดกิจกรรมนอกสถานที่ที่อยู่ในขณะกรรมการกำกับดูแลของโรงเรียน
มาตรการป้องกัน
1. สร้างความรู้ ทักษะการดูแลตนเองในการเดินทางและร่วมกิจกรรม
2. ตรวจสอบ สำรวจจุดเสี่ยงสถานที่ บริเวณที่จะทำกิจกรรมนอกสถานที่
3. ตรวจสอบความพร้อมของยานพาหนะให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย
4. ตรวจสอบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องประจำยานพาหนะ เช่นถังดับเพลิงค้อน
5. ตรวจสอบประวัติคนขับ ใบอนุญาตขับขี่ ความสามารถในการขับขี่ ความพร้อมในการเดินทาง
6. มีพนักงานควบคุมเพื่อดูแลความปลอดภัยของนักเรียน
7. กำหนดแนวปฏิบัติร่วมกันขณะอยู่ในยานพาหนะ และคณะขับรถยนต์เคลื่อนที่ (ห้ามห้อยโหนหยอกล้อ)
8. ตรวจสอบนักเรียนทุกครั้งที่มีการขึ้นลงรถ
9. จัดทำป้ายชื่อรถ รับส่งทัศนศึกษาให้ชัดเจน
10. ทำประกันภัยโดยความสมัครใจของนักเรียน 11. ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการพานักเรียนและนักศึกษา ภายนอกสถานศึกษา พ.ศ 2562 และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ 2563
12. ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการควบคุมดูแลรถโรงเรียน พ.ศ 2562
มาตรการช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ
1. เมื่อเกิดเหตุผู้บริหารครูที่อยู่ในเหตุการณ์ ดำเนินการช่วยเหลือนักเรียนทันที ประเมินอาการเบื้องต้นและปฐมพยาบาล
2. กรณี ไม่รุนแรง ปฐมพยาบาลและแจ้งผู้ปกครองทราบเพื่อตัดสินใจว่าจะให้นักเรียนกลับบ้านหรือทำกิจกรรมต่อ รุนแรง ปฐมพยาบาลและแจ้งผู้ปกครองทราบส่งนักเรียนไปสถานพยาบาลใกล้เคียง
3. ครูผู้อยู่ในเหตุการณ์รายงานผู้อำนวยการโรงเรียนหรือผู้ได้รับมอบหมาย ตามมาตรการลงบันทึกเหตุการณ์ในสมุดหมายเหตุรายงาน
4. รายงานต้นสังกัด
มาตรการหลังเกิดเหตุ
1. ติดตามแก้ปัญหาช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟู
2. รายงานผลการแก้ไขช่วยเหลือเยียวยาผ่านระบบ Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการหรือรายงานสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
3. จัดทำเป็นกรณีศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางในการป้องกัน คุ้มครองช่วยเหลือนักเรียน
4. ทบทวน ปรับปรุง พัฒนามาตรการ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
หน่วยงานที่ติดต่อขอความช่วยเหลือ
1. ศูนย์ Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สช.
3. สถานพยาบาลในพื้นที่
4. ศูนย์ฉุกเฉินโทร 1669
5. สถานีตำรวจในพื้นที่
6. โรงพยาบาลจิตเวชในพื้นที่
2.2 อุบัติเหตุภายในสถานศึกษา
1. อุบัติเหตุจากอาคารเรียน ห้องเรียน การใช้ครุภัณฑ์ และอุปกรณ์
2. อุบัติเหตุภายในบริเวณโรงเรียน
a. สนามเด็กเล่น
b. สนามกีฬา
c. อุปกรณ์กีฬา
d. รั้วโรงเรียน
e. ประตูโรงเรียน
f. เขตก่อสร้าง
g. กองวัสดุชำรุด
h. ต้นไม้
i. สระน้ำ
j. เหตุจากการจมน้ำและอื่นๆ
มาตรการป้องกัน อาคารเรียนและห้องเรียน
1. บำรุงรักษาดูแลอย่างสม่ำเสมอให้อยู่ในสภาพใช้งานได้
2. สร้างความตระหนักให้ความรู้ในการรักษาความปลอดภัยแก่นักเรียน บุคลากร
3. แต่งตั้งบุคลากรดูแลและรับผิดชอบอาคารสถานที่
4. จัดทำป้ายข้อความระวังในจุดอันตราย
5. มีแผนป้องกันการเคลื่อนย้ายกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมเช่นถังดับเพลิง
6. สำรวจสภาพห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
มาตรการป้องกัน ครุภัณฑ์และอุปกรณ์
1. ตรวจสอบครุภัณฑ์และอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ จะวางในที่เหมาะสมปลอดภัย ทำข้อแนะนำและข้อควรระวังในการใช้
2. ห้ามใช้ครุภัณฑ์และอุปกรณ์ที่ชำรุด
3. จัดกิจกรรม Big cleaning Day เพื่อให้นักเรียนปลอดภัยจากการใช้ครุภัณฑ์ และอุปกรณ์
2.2 อุบัติเหตุภายในสถานศึกษา
มาตรการป้องกัน
สนามเด็กเล่น
1. ให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้สนาม สนามเด็กเล่น สนามกีฬา อุปกรณ์กีฬา รั้วโรงเรียน ประตูโรงเรียน เขตก่อสร้าง กองวัสดุชำรุด ต้นไม้ต่างๆ
2. มีผู้รับผิดชอบบริเวณต่างๆ จัดทำป้ายข้อกำหนดและวิธีการใช้เครื่องเล่นทุกชนิด ป้ายคำเตือน ตรวจสภาพ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สระน้ำและการจมน้ำ
1. สร้างความรู้เกี่ยวกับอุบัติเหตุทางน้ำ ฝึกปฏิบัติในการเอาตัวรอดเมื่อประสบ เหตุทางน้ำ โดยเน้นการสอนเรื่อง ทักษะการเอาตัวรอดและช่วยเหลือชีวิตทางน้ำ
2. สำรวจจุดเสี่ยงต่อการจมน้ำ ให้มีฝาปิดบ่อทำรั้วรอบแนวเขตสระน้ำ บ่อเลี้ยงปลา และทำป้ายคำเตือน กำหนดแนวปฏิบัติการใช้
3. ติดตั้งไฟฟ้าส่งทาง บริเวณบ่อน้ำ สระน้ำ บ่อเลี้ยงปลา
4. ห้ามเด็กเล็กเข้าใกล้บริเวณบ่อน้ำ บ่อเลี้ยงปลา กรณีทำกิจกรรมต้องมีครูควบคุม ดูแลอย่างใกล้ชิด
5. เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินให้ดำเนินการตามมาตรการของโรงเรียน
มาตรการหลังเกิดเหตุ
1. ติดตาม แก้ปัญหา ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู
2. รายงานผลการแก้ไขช่วยเหลือเยียวยาผ่านระบบ Moe Safety Center หรือรายงานสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
3. ทบทวน ปรับปรุง พัฒนามาตรการเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
หน่วยงานที่ติดต่อขอความช่วยเหลือ
1. Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สช.
3. โรงพยาบาลใกล้เคียงในพื้นที่
4. ศูนย์ฉุกเฉิน โทร 1669
5. สถานีตำรวจในพื้นที่
6. องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด
2.3 ภัยธรรมชาติ ได้แก่ อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย
มาตรการป้องกัน
1. ศึกษาแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละพื้นที่
2. จัดทำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฉุกเฉินของสถานศึกษาซ้อมแผนให้สอด คล้องกับแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด ของกระทรวงมหาดไทย
3. ส่วนอุปกรณ์ป้องกันภัยเช่น ถังดับเพลิงให้มีความพร้อมใช้งาน
4. ซักซ้อมการเผชิญเหตุภัยธรรมชาติ
5. จัดให้มีระบบสื่อสาร กรณีฉุกเฉิน เช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
6. กำหนดผู้รับผิดชอบงานอุบัติภัยในสถานศึกษา ประสานเครือข่ายชุมชนหน่วยงานรองรับการแจ้งเตือนแจ้งเหตุ
7. ทบทวนมาตรการเสี่ยงภัยของสถานศึกษาอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง
มาตรการหลังเกิดเหตุ
1. ติดตาม แก้ปัญหา ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู
2. รายงานผลการแก้ไขช่วยเหลือเยียวยาผ่านระบบ Moe Safety Center หรือรายงานสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
3. ทบทวน ปรับปรุง พัฒนามาตรการเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
หน่วยงานที่ติดต่อขอความช่วยเหลือ
1. Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สช.
3. แจ้งเหตุไฟไหม้ โทร 199
4. ศูนย์ฉุกเฉิน โทร 1669
5. แจ้งเหตุสาธารณภัย โทร 1860
6. ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ จังหวัด และภูมิภาค
2.3 ภัยธรรมชาติ ได้แก่ อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย
มาตรการป้องกัน
1. ศึกษาแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละพื้นที่
2. จัดทำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฉุกเฉินของสถานศึกษาซ้อมแผนให้สอด คล้องกับแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด ของกระทรวงมหาดไทย
3. ส่วนอุปกรณ์ป้องกันภัยเช่น ถังดับเพลิงให้มีความพร้อมใช้งาน
4. ซักซ้อมการเผชิญเหตุภัยธรรมชาติ
5. จัดให้มีระบบสื่อสาร กรณีฉุกเฉิน เช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
6. กำหนดผู้รับผิดชอบงานอุบัติภัยในสถานศึกษา ประสานเครือข่ายชุมชนหน่วยงานรองรับการแจ้งเตือนแจ้งเหตุ
7. ทบทวนมาตรการเสี่ยงภัยของสถานศึกษาอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง
มาตรการหลังเกิดเหตุ
1. ติดตาม แก้ปัญหา ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู
2. รายงานผลการแก้ไขช่วยเหลือเยียวยาผ่านระบบ Moe Safety Center หรือรายงานสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
3. ทบทวน ปรับปรุง พัฒนามาตรการเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
หน่วยงานที่ติดต่อขอความช่วยเหลือ
1. Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สช.
3. แจ้งเหตุไฟไหม้ โทร 199
4. ศูนย์ฉุกเฉิน โทร 1669
5. แจ้งเหตุสาธารณภัย โทร 1860
6. ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ จังหวัด และภูมิภาค
3. ภัยที่เกิดจากผลกระทบต่อสุขภาวะทางกายและจิตใจ
ภัยที่เกิดจากผลกระทบต่อสุขภาวะทางกายและจิตใจ
3.1 ภาวะจิตเวช ติดเกม ภัยจากโซเชียล การพนันและการติดยาเสพติด
3.2 โรคระบาด โรคติดต่อในสถานศึกษา มลภาวะเป็นพิษ และอาหารเป็นพิษ
3.3 ภัยอื่นๆ

ภาวะจิตเวช ติดเกม ภัยจากโซเชียล การพนันและการติดยาเสพติด
มาตรการป้องกัน
1. การรับสมัครนักเรียนเข้าเรียน โรงเรียนควรมีการคัดกรองนักเรียนเกี่ยวกับ ประวัติสุขภาพโรคประจำตัว พฤติกรรมที่อาจจะไม่ปกติ ยาที่ต้องรับประทาน เป็นประจำ เพื่อให้โรงเรียนสามารถดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้ทันที
2. โรงเรียนให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับภัยที่เกิดจากผลกระทบต่อสุขภาวะ ทางกายและจิตใจ เช่น ภาวะจิตเวช ติดเกม ติดโซเชียล การพนัน ยาเสพติดเป็นต้น
3. ผู้บริหารย้ำให้ครูประจำชั้น ครูผู้สอน ประเมินและสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ทุกครั้งก่อนการสอนหรือทำกิจกรรม
4. จัดกิจกรรมเสริมทักษะชีวิตในสถานศึกษา
5. พัฒนาครูประจำชั้นให้เป็นครูแนะแนว และนักจิตวิทยาประจำชั้นเรียน
มาตรการช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ
1. สังเกตพฤติกรรมนักเรียนที่มีแนวโน้มผิดปกติ เหตุการณ์ก้าวร้าว พบอาวุธ ระมัดระวังตัวมาก หวาดระแวง หวาดกลัว มีอารมณ์ซึมเศร้า รุนแรงอารมณ์โกรธ ควบคุมตัวเองไม่ได้ หมดหวัง ขาดที่พึ่งโดดเดี่ยว
2. ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความ
ช่วยเหลือหรือแนะนำผู้ปกครองนำนักเรียนไปพบแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
3. แจ้งผู้ปกครองทราบพฤติกรรม และร่วมกันหาแนวทางแก้ไข
มาตรการหลังเกิดเหตุ
1. ติดตามแก้ไขให้ช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟู
2. รายงานผลการแก้ไขช่วยเหลือเยียวยาผ่านระบบ Moe Safety Center หรือรายงานสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
3. ทบทวน ปรับปรุง พัฒนามาตรการเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
หน่วยงานที่ติดต่อขอความช่วยเหลือ
1. Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สช.
3. สถานพยาบาล
4. ศูนย์ฉุกเฉิน โทร 1669
5. สถานีตำรวจในพื้นที่
6. โรงพยาบาลจิตเวชในพื้นที่
7. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
8. ศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทร 1300
9. สายด่วนยาเสพติด(สถาบันธัญญารักษ์) โทร 1165
10. สายด่วนสำนักงาน ปปส.โทร 1386
โรคระบาด โรคติดต่อในสถานศึกษา มลภาวะเป็นพิษ และอาหารเป็นพิษ
มาตรการป้องกัน
1. การรับสมัครนักเรียนเข้าเรียน โรงเรียนควรมีการคัดกรองนักเรียน เกี่ยวกับประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว พฤติกรรมที่อาจจะไม่ปกติ ยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ เพื่อให้โรงเรียนสามารถดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้ทันที
2. โรงเรียนให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการป้องกันภัยที่ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น โรคระบาดโรคติดต่อ มลภาวะเป็นพิษ สุขลักษณะหรืออนามัย
3. ตรวจสุขภาพนักเรียน ครู บุคลากรและเจ้าหน้าที่ในสถานศึกษา ผู้ประกอบการอาหาร ผู้ขายอาหาร โดยหน่วยงานสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นประจำ
4. มีสมุดบันทึกประวัติการตรวจสุขภาพประจำตัวทุกคน กรณีมีโรคประจำตัวต้องดูแลใกล้ชิด
5. ผู้บริหาร ย้ำให้ครูประจำชั้น ครูผู้สอน ประเมินและสังเกตพฤติกรรมนักเรียนทุกครั้งก่อนทำการสอนหรือทำกิจกรรม
6. โรงเรียนดำเนินการจัดระบบการสุขาภิบาลอาหาร และปฏิบัติตามหลักการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
มาตรการช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ
1. ผู้บริหาร ครู สังเกตประมาณสถานการณ์ โดยการสังเกตอาการ หากให้พบแพทย์ช่วยเหลือเบื้องต้นและแจ้งผู้ปกครองทราบ
2. กรณีเป็นโรคติดต่อ ให้คัดกรองและแยกผู้ที่มีความเสี่ยง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดผู้บริหารโรงเรียนพิจารณาขอคำแนะนำจากสถานพยาบาล
หรือสาธารณสุขในพื้นที่ประกอบการตัดสินใจว่าจะปิดสถานศึกษาหรือไม่
3. ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
มาตรการหลังเกิดเหตุ
1. ติดตาม แก้ปัญหา ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู
2. รายงานผลการแก้ไข ช่วยเหลือเยียวยา ฟื้นฟู ผ่านระบบ Moe Safety Center หรือรายงานสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
3. ทบทวนปรับปรุง พัฒนามาตรการ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
หน่วยงานที่ติดต่อขอความช่วยเหลือ
1. Moe Safety Center ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สช.
3. สถานพยาบาลใกล้เคียง
4. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล
5. โรงพยาบาลในพื้นที่
6. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่